หมู่บ้านบางกะม่า ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี เป็นชุมชนชาติพันธุ์ไทยกะเหรี่ยงขนาดเล็ก เดิมเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวแนวธรรมชาติเฉพาะกลุ่ม ซึ่งชุมชนบ้านบางกะม่ากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และรับจ้างไปสุ่การเป็นเจ้าของกิจการลานสเตย์ ด้วยกระแสการท่องเที่ยว “ความเจริญ” และผู้คนจากภานนอกที่จะไหลบ่าเข้ามาในอนาคต ก่อให้เกิดความกังวลว่า อาจจะเกิดปัญหาเรื่องการจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อม การทำลายสภาพป่าที่เคยสมบูรณ์การจัดการขยะ และการกลืนกลายหายไปของวัฒนธรรมอันเป็นรากฐานของชุมชน
วัตถุประสงค์
- เพื่อเสริมสร้างทักษะการเป็นนวัตกรรมและผู้ประกอบการเชิงวัฒนธรรมให้กับสมาชิกของชุมชนชาติพันธุ์ไทยกะเหรี่ยงในพื้นที่ศึกษา
- เพื่อสร้างผลิตภัณพ์ / บริการเชิงวัฒนธรรมต้นแบบที่ก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรากฐานของชุมชน
- เพื่อฟื้นฟูและต่อยอดศิลปะวัฒนธรรมของชาวไทยกะเหรี่ยงโผล่วในพื้นที่ศึกษาให้สามารถแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ปัญหาใดปัญหาหนึ่งได้ (ในที่นี้ คือ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาเรื่องการขาดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่ และปัญหาความยากจนของคนบางกลุ่ม)
การดำเนินการแก้ไขปัญหา ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)
อาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัย ได้ดำเนินโครงการร่วมกับกลุ่มเป้าหมายเยาวชนในพื้นที่ จำนวน 76 คน สมาชิกและผู้สูงอายุในชุมชน จำนวน 10 คน และผู้ประกอบการในชุมชน จำนวน 12 คน โดยดำเนินกิจกรรม ดังนี้
- ค่ายแผนที่พฤกษศาสตร์ คณะนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีและคณะนักวิจัยเยาวชน
- การทดลองขึ้นรูปภาชนะในห้องปฏิบัติการ ดดยการใช้เครื่องอัดขึ้นรูปด้วยความร้อนและความดัน
- การถ่ายทอดทักษะนวัตกรรมภาชนะจากใบ้ไม้
- การอบรมทักษะการเป็นผู้ประกอบการ
การที่กลุ่มผู้อาวุโสของชุมชนออกมาร่วมกันผลิตภาชนะช่วยประคองให้สุขภาวะทางกายและทักษะการคิดไม่เสื่อมถอย ได้ใช้ความคิดในการวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาผ่านการทดลองขึ้นรูปใบไม้หลายชนิด รวมทั้งมีโอกาสได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการขัดเกลาความงามของลวดลาย รูปร่างของภาชนะที่ขึ้นรูปอีกด้วย
การมีทักษะในการผลิตจานใบไม้ทำให้กลุ่มผู้สูงอายุโครงการ ฯ ยังมีแผนที่จะสร้างระบบห่วงโซ่คุณค่าให้เกิดขึ้นกับสมาชิกกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน โดยกลุ่มโรงเรียนเป็นผู้พัฒนาและออกแบบ (Research and Development) ภาชนะรุ่นใหม่ ๆ ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชน ทำหน้าที่หาและจัดเตรียมวัสดุ และขึ้นรูปภาชนะ นอกจากจะส่งขายให้กับผู้จัดงานประเพณีหรือกิจกรรมทางสังคมที่ต้องมีการจัดเลี้ยงอาหารแล้ว ยังมุ่งหวังให้ประชาคมผู้ประกอบการลานสเตย์ในพื้นที่บางกะม่ารับซื้อไปใช้ต่อ เพื่อสื่อสารเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ฯ ของชุมชนด้วย
การผลิตภาชนะใส่อาหารจากใบไม้ ใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ ช่วยลดภาระในการจัดการขยะให้กับชุมชนได้มากกว่า เพราะสามารถกองทิ้งไว้หรือรวบรวมไปฝังกลบจนย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยบำรุงดินได้ในเวลาไม่นาน
การเลือกใช้ใบไม้ในพื้นที่เพื่อนำมาผลิตเป็นภาชนะนั้นสอดคล้องกับการผลัดเปลี่ยนของฟดูกาลใบไม้ดังกล่าว นับเป็นสิ่งเหลือใช้ของฟดูกาลใบไม้ร่วงหล่นลงมาตามธรรมชาติ หากไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์ อาจกลายเป็นเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดไฟป่าในช่วงหน้าแล้งได้ และคำนึงถึงชนิดของใบไม้ที่มีความผูกพันกับวิถีความเป็นอยุ่ของชาวกะเหรี่ยงในอดีตที่มีความเคาระต่อธรรมชาติและภูมิปัญญาในการอยู่ร่วมกับป่าอีกด้วย
ผลกระทบการดำเนินโครงการ
เศรษฐกิจ
- สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิต อาทิ ผู้สูงอายุในชุมชน สามารถมีรายได้มากถึง 5,600 บาท / ปี
- ภาพลักษณ์ที่ดีในการเป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และวัฒนธรรมช่วยเสริมให้การบริการมีมูลค่าสูงขึ้น
สังคม
- สุขภาวะของชุมชนดีขึ้น เนื่องจากมีวิธีการกำจัดขยะที่ก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษน้อยลง
- ลดการเสื่อมถอยของการรับรู้จดจำ (cognitive) และกล้ามเนื้อร่างกายบางส่วนเพราะการได้ออกกำลังโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ
- วิถีวัฒนธรรมกะเหรี่ยงที่อิงกับธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู
สิ่งแวดล้อม
- มลภาวะจากการท่วมท้นของขยะภาชนะที่กำจัดได้ยากและควันพิษจากการเผาขยะดังกล่าวลดน้อยลง
สมาชิกทีม
- นางสาวปาลิตา พรรณพูนศักดิ์
- นางสาวพิชชากร ไชยศิริธัญญา
- นายณัฐภัทร วัชราภรณ์
- นางสาววิรากานต์ สมานคติวัฒน์